Thursday, 25 April 2024

ชมพู่ หรือ Rose Apple : ผลไม้ยอดฮิตประจำบ้าน ของฝากญาติมิตร

ชมพู่ หรือ Rose Apple (ชื่อวิทยาศาสตร์ : Syzygium) ผลไม้เมืองร้อนที่มีถิ่นกำเนิดแถบอินโดนีเซียและอินเดีย คนไทยนิยมปลูกไว้ตามสวนในบ้านมาช้านาน เพราะสามารถปลูกได้ง่ายแถมยังโตเร็ว มีรสชาติหวานกรอบอร่อย วิตามินซีสูง เก็บไปฝากหรือเยี่ยมเยียนญาติมิตรได้ ถูกใจทั้งคนรับคนให้และยังเป็นไม้บังแดดช่วงยามบ่ายให้ตัวบ้านได้ดีอีกด้วย

สายพันธุ์ของชมพู่

ชมพู่ ปลูกได้ดีในดินแทบทุกชนิด ทั้งที่ลุ่ม ที่ดอน ที่ราบ ถ้าเราปลูกในพื้นที่ราบ ผลจะมีขนาดเล็กแต่รสหวานจัด ขณะที่ถ้าเราปลูกบนพื้นที่ยกร่อง ผลชมพู่จะมีขนาดใหญ่แต่รสจืด ไม่ค่อยหวาน พันธุ์ที่นิยมปลูกจะมีหลายสายพันธุ์ให้เลือกตามความชอบ ตั้งแต่พันธุ์ดั้งเดิม ส่วนใหญ่จะมีรสหวานอมเปรี้ยว เช่น ชมพู่สาแหรก ( S. malaccense ) ชมพู่มะเหมี่ยว (เป็นสายพันธุ์ของชมฑุ่สาแหรก) ชมพู่แก้มแหม่ม ( S. samarangense ) ชมพู่แขกดำ (เป็นพันธุ์ของชมพู่แก้มแหม่ม) ชมพู่น้ำดอกไม้ ( S. jambos ) ชมพู่พลากสติก ( S. aqueum ) ซึ่งมีผลเล็กสีชมพูหรือขาว และพันธุ์ที่ปรับปรุงพัฒนาขึ้นใหม่ รสชาติหวานฉ่ำ คือ พันธุ์เพชรสุวรรณ เพชรสายรุ้ง เพชรน้ำผึ้ง ทับทิมจันทร์ ทูลเกล้า เป็นต้น

ชมพู่ หรือ Rose Apple : ผลไม้ยอดฮิตประจำบ้าน ของฝากญาติมิตร
ภาพโดย SIVA PRASAD จาก Pixabay

ชมพู่ เป็นผลไม้กินน้ำจุ

ชมพู่ เป็นผลไม้ที่ชอบน้ำเป็นอย่างมาก หากโดนน้ำท่วมขังโคนนานนับเดือนก็ยังไม่ตาย ถ้าปลูกในฤดูฝนก็ไม่ต้องดูแลรดน้ำมาก แต่หลังจากฤดูฝนผ่านไปแล้ว ควรทำแอ่งน้ำรอบโคนต้น เติมน้ำจนเต็มแอ่ง ปล่อยให้น้ำแห้งไปเองจะช่วยยืดระยะเวลาการให้น้ำได้ แม้ว่าต้นชมพู่จะกินน้ำจุ แต่ก่อนเก็บเกี่ยวประมาณ 1 สัปดาห์ ต้องให้ชมพู่อดน้ำ จะทำให้มีรสชาติหวานอร่อย ถ้าเรายังให้น้ำชมพู่อยู่จะทำให้ชมพู่มีรสชาติจืดชืด เพราะมีน้ำในผลมาก

การห่อผลชมพู่

ชมพู่ เป็นของโปรดของเหล่าแมลงวันผลไม้ หรือ แมลงวันทอง นก ค้างคาว กระรอก ถ้าเราไม่ห่อผล โอกาสที่จะได้กินชมพู่อร่อยๆ จะแทบไม่มีเลย หลังจากชมพู่ออกดอกแล้วประมาณ 2 เดือน ต้องรีบห่อผล โดยเลือกผลที่สมบูรณ์ไว้ช่อละ 3-4 ผล ดูจากช่อหรือขั้วที่ชี้ลงด้านล่าง เพราะจะแข็งแรงกว่าช่อหรือขั้วที่ชี้ขึ้นด้านบน และควรเป็นช่อที่ออกบริเวณกิ่งด้วย

ชมพู่ หรือ Rose Apple : ผลไม้ยอดฮิตประจำบ้าน ของฝากญาติมิตร
ภาพโดย Abhilash Jacob จาก Pixabay

วัสดุที่ใช้ห่อ ให้ใช้ถุงกระดาษ โดยเฉพาะถุงปูนซีเมนต์ หรือ ถุงรีเมย์ จะได้ผลดีที่สุด ผลชมพู่ที่ห่อไว้จะไม่มีรอยด่างหรือถูกทำลายจากแมลง เนื้อหนา กรอบ รสหอมหวาน แต่ถ้าไม่ห่อ ผลชมพู่จะมีผิวกร้านแข็ง เนื้อบางไม่กรอบ รสหวานน้อยกว่า

แสงและทิศทางมีผลกับสีของผลไม้

นอกจากสีของถุงห่อที่ส่งผลต่อผิวของชมพู่แล้ว โดยถุงสีแดงและถุงสีเหลือง จะให้ผลสีสดใสเป็นมันมากกว่าสีอื่นๆแล้ว แสงแดดและทิศทางก็มีผลเช่นเดียวกัน ผลชมพู่ที่อยู่ในที่ร่มโดนใบบังไม่ได้รับแสงแดดจะไม่มีเส้นสีเข้มพาดตามยาวผล และจะมีสีเขียวเข้มกว่าผลที่โดนแสง ส่วนผลที่อยู่ทางด้านทิศตะวันออกของต้นจะมีเส้นสีเข้มพาดตามยาวผลมาก สีเขียวเข้ม และรสหวานกว่าผลที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตก

การอุดรูแก้หนอนชมพู่

ชมพู่จะเริ่มให้ผลหลังจากที่เราปลูกไปเป็นเวลาประมาณ 2 ปีแล้ว และสามารถเก็บกินได้นานถึง 20 ปี คงน่าเสียดายถ้าชมพู่ต้นใหญ่กำลังออกลูกดกต้องมาเจอกับหนอนชมพู่เจาะชอนไชเข้าไปภายในลำต้น กินถึงแกนใบจนต้นชมพู่ตาย

ชมพู่ หรือ Rose Apple : ผลไม้ยอดฮิตประจำบ้าน ของฝากญาติมิตร
ภาพโดย Ngoc Huy Nguyen จาก Pixabay

วิธีแก้ไขง่ายๆ เมื่อพบรูที่หนอนเจาะไว้ตามลำต้น ให้หาเศษไม้สักมาเหลาให้โตกว่ารูเล็กน้อย ปลายเรียวนิดๆ ตอกไม้เหลาไว้เข้ากับลำต้นที่เป็นรู เพื่อปิดรูไว้ หนอนจะไม่ลุกลาม และไม่มารบกวนชมพู่ของเราอีก