เบญจมาศ หรือ (Chrysanthemum) เป็นไม้ดอกหรือไม้มงคลที่คนไทยนิยมปลูกกันในหลายพื้นที่ เนื่องจากมีสีสันสวยงาม เพาะเลี้ยงง่าย และมีหลายสายพันธุ์ให้เลือกปลูก
ดอกเบญจมาศ เป็นดอกไม้ที่มีการซื้อขายกันเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจาก ดอกกุหลาบ มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีน
ทำความรู้จักดอกเบญจมาศ
เบญจมาศ หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า แทนซี่ เป็นไม้มงคลของประเทศจีน ออกดอกตลอดปี ลำต้นมีขนาดเล็ก ความสูงประมาณ 75-80 เซนติเมตร ตามลำต้น กิ่งก้าน ใบ เต็มไปด้วยขนละเอียด แตกกิ่งก้านสาขาไม่มาก ออกดอกเป็นช่อกระจุกกันแน่น กลีบใบซ้อนมีหลายสี
เบญจมาศที่นิยมปลูกเป็นไม้ตัดดอก มี 4 ประเภท
- Exhibition Type : ดอกมีขนาดใหญ่มาก รูปทรงกลม ลำต้นสูง แต่ละต้นเลี้ยงให้มีเพียง 1 ดอก
- Standard Type : ดอกขนาดเล็กกว่า Exhibition Type แต่ละต้นเลี้ยงให้มี 3-4 กิ่ง และแต่ละกิ่งมีเพียง 1 ดอก
- Spray Type : ดอกขนาดเล็กกว่า Standard Type แต่ละกิ่งมีหลายดอก และมี 3-4 กิ่งต่อต้น หรืออาจมีมากกว่านี้ ตัดดอกขายในลักษณะเป็นกิ่งหรือต้องขายทั้งต้น
- Potted Type : ดอกขนาดเล็กกว่า Spray Type ใช้ปลูกเป็นไม้กระถาง มีทรงพุ่มกระทัดรัด แตกกิ่งก้านได้มากดอกดก
การปักกิ่งชำดอกเบญจมาศ
เบญจมาศสามารถปลูกด้วยกิ่งชำได้ ในฤดูร้อนให้ตัดกิ่งชำสั้นๆ (ยาวประมาณ 8 เซนติเมตร เลือกที่มีตาใบหลายๆตา) จากกิ่งใหม่ ใช้กิ่งชำที่ตัดนี้ปลูกแซมกอเดิมทุกๆ 2-3 ปี หรือใช้ปลูกเพิ่มสีสันดอกไม้แต่งสวนของคุณก็ได้
ต้นเบญจมาศส่วนใหญ่มักจะสูงเก้งก้าง มักจะต้องอาศัยไม้ค้ำเพื่อพยุงลำต้น ถ้าต้องการให้ต้นดูกะทัดรัดสมส่วนและมั่นคงยิ่งขึ้น ให้เด็ดยอดที่แตกใหม่ออกเป็นประจำ เริ่มตั้งแต่เมื่อต้นสูงประมาณ 20 เซนติเมตร เพื่อให้แตกกิ่งเป็นพุ่ม จากนั้นตัดยอดที่ขึ้นใหม่ให้สั้นลงอีกเมื่อต้นสูงประมาณ 30 เซนติเมตร
เทคนิคการปลิดดอกทิ้ง
เทคนิค ‘การปลิดดอกทิ้ง’ คือการลดจำนวนดอกตูมในแต่ละช่อดอกลง ทำให้เบญจมาศมีดอกน้อยลงแต่ได้ดอกที่มีขนาดใหญ่ขึ้น การปลิดดอกตูมก็เพียงแค่ใช้เล็บปลิดทิ้งไปเท่านั้น นอกจากนี้ถ้าบำรุงปุ๋ยเป็นประจำก็ทำให้ดอกใหญ่ขึ้นเช่นกัน
หลังจากหมดดอกแล้ว ให้ตัดต้นเบญจมาศออกจนเหลือแค่ระดับเหนือพื้นดิน พอถึงช่วงต้นฤดูร้อน เบญจมาศจะเริ่มขึ้นงอกงามอีกครั้งโดยการแตกรากออกมา ให้เราขุดกอขึ้นมา แล้วนำมาแยกออกเป็นต้นใหม่หลายๆต้น
การจัดสวนและแจกัน
การปลูกประดับสวนให้สวยงามตรึงใจด้วยเบญจมาศพันธุ์ที่ให้ดอกนาน สีสันอันเปี่ยมชีวิตชีวาซึ่งมีทั้งสีส้ม แดง ม่วง ชมพู แดงอมน้ำตาล แดงอมส้ม เหลือง และขาว เหมาะที่สุดกับบรรยากาศในฤดูหนาว เบญจมาศชอบแดดจัดและดินที่ระบายน้ำได้ดี
ทันทีที่ดอกไม้โรยหมดแล้ว ให้ตัดกิ่งเบญจมาศที่ปลูกไว้ให้เหลือประมาณ 20 เซนติเมตร กิ่งที่ตัดนี้จะแตกใหม่ และให้ดอกเล็กๆที่ตัดนำมาปักแจกันได้
หากเลี้ยงไว้ในกระถางจะสามารถให้ดอกได้นาน ใช้ประดับในบ้านหรือบริเวณระเบียงหรือตามทางเดินได้นาน 3-6 สัปดาห์ เท่าที่ต้องดูแล คือ จัดวางไว้ในจุดที่มีแสงสว่าวดี รดน้ำเมื่อแห้งและตัดดอกที่โรยทิ้งเท่านั้น
การดูแลดอกเบญจมาศ
ควรปลูกในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำได้ดี ได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่ ในระยะแรกควรให้น้ำทั้งช่วงเช้า – เย็น เมื่อโตเต็มที่สามารถรดน้ำตอนเช้า วันละครั้งได้ เนื่องจากเบญจมาศชอบอากาศหนาวหรืออบอุ่น เพื่อช่วยในการออกดอก ควรให้ปุ๋ยละลายเร็ว สูตร 15-15-15 เพื่อเร่งโครงสร้างลำต้นให้สมบูรณ์ หลังจากนั้นจึงจะเปลี่ยนเป็นปุ๋ยเร่งดอก 8-24-24 ทั้งนี้ควรระวังโรคเชื้อรา โรคใบจุด โรคใบเหี่ยว พวกเพลี้ย ด้วย
อ้างอิง : wikipedia , technologychaoban.com
