Thursday, 21 November 2024

วิธีการซ่อมแซมรอยแตกบนผนังและเพดาน

รอยแตกบนผนังและเพดานเกิดขึ้นได้อย่างไร? แล้วเราจะมีวิธีการซ่อมแซมรอยแตกบนผนังและเพดานได้อย่างไรบ้าง? | ปูนซีเมนต์ที่ใช้ฉาบผนังบ้านนั้นมันมีการหดตัวหรือขยายตัวได้ และมันอาจจะแตกร้าวได้ตามสภาพอากาศ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นรอยต่อระหว่างกัน เช่น บริเวณขอบประตู หน้าต่าง ผนัง หรือการก่อสร้างเพิ่มเติม

เราจะซ่อมแซมรอยแตกบนผนังและเพดานได้อย่างไร?

วิธีการซ่อมแซมรอยแตกบนผนังและเพดาน

การซ่อมแซมรอยแตกบนผนังและเพดาน เมื่อต้องการจะซ่อมแซมรอยกะเทาะแตกร้าวตามเพดานหรือผนังปูนฉาบ วิธีที่ดีที่สุด คือ การหาซื้อปูนผสมสำเร็จรูป หรือจะซื้อปูนผงมาผสมน้ำเองก็ได้ เวลาโป๊วให้ใช้เกรียงโบกหรือใช้มีดสำหรับฉากในกรณีที่เป็นรอยแตกเล็กน้อย ถ้าเป็นรอยร้าวให้ยาด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นเซลลูโลส (Cellulose filler) เข้าไปตามรอยแตก

ตัวอย่างรูปภาพ : ร่องรอยแตกร้าวภายในบ้าน >> คลิก

วิธีเตรียมการ

  • ขูดเอาเศษปูนที่ยุ่ยกระเทาะหรือแตกร้าวที่ค้างอยู่ออกให้หมด
  • ตรวจดูสภาพปูนฉาบบริเวณรอบๆว่ายังคงแข็งแรงมีความแน่นหนาอยู่หรือไม่ โดยใช้ด้านเกรียงเคาะดู
  • หากยังมีส่วนยุ่ย ให้เอาสิ่วและค้อนค่อยๆสกัดออกให้หมด
  • ใช้แปรงปัดกวาดบริเวณนั้นให้สะอาดเรียบร้อย
  • หากบริเวณที่โป๊วปูนมีผิวเรียบเนียนมาก เราอาจทาด้วยกาว PVA ชั้นหนึ่งก่อน ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวประสานอย่างดีระหว่างวัสดุเดิมกับปูนใหม่

การโบกปูนปลาสเตอร์ปิดรอยแตกบนผนัง

ผสมผงปูนปลาสเตอร์ตามคำแนะนำของผู้ผลิต หรือ เพียงคนให้ทั่วในกรณีที่เป็นปูนสำเร็จรูป นำปูนที่ผสมแล้วจำนวนหนึ่งใส่บนแผ่นรองปูนซึ่งเป็นแผ่นไม้ที่มีด้านถืออยู่ด้านใต้ โบกลงไปตรงบริเวณที่ต้องการจะซ่อมแซมแล้วกดหรือใช้เกรียงตบให้แน่นเป็นชั้นๆ โดยให้แต่ละชั้นแข็งตัวพอสมควรก่อนที่จะโบกชั้นต่อไป

การโบกปูนปลาสเตอร์ปิดรอยแตกบนผนัง

ก่อนปูนชั้นสุดท้ายจะเริ่มแห้ง ให้เอาสันไม้ระแนงหรือไม้บรรทัดปาดเป็นหยักๆไปมาให้ผิวเสมอกับผิวเดิมแล้วใช้เกรียงปาดแต่งให้เรียบร้อย จากนั้นจึงเอาฟองน้ำชุบน้ำเช็ดผิดปูนเบาๆ การโบกปูนให้เสร็จทีเดียว สามารถทำได้ในกรณีที่หนาไม่เกิน 5 เซนติเมตร เพื่อกันไม่ให้เกิดการถ่วงน้ำหนักมากเกินไป

การซ่อมแซมหัวมุมผนังนอกบ้าน

การเตรียมการจะเหมือนกับที่กล่าวเอาไว้ข้างต้น พร้อมทั้งเตรียมไม้ระแนงขนาดกว้างประมาณ 5 เซนติเมตร และยาวกว่าบริเวณที่ต้องการซ่อมแซมเล็กน้อย (วัดตามแนวดิ่ง)

ตอกตะปูคอนกรีตลงบนส่วนหัวและส่วนท้ายของไม้ระแนงให้ห่างจากปลายไม้ทั้งสองข้างเล็กน้อย ตอกให้ชิดไปทางขอบด้านหนึ่ง แล้วนำไปตอกประกบให้ชิดกับขอบผนังที่มุมด้านหนึ่ง โดยให้ระแนงอยู่ในแนวตั้ง และให้หัวตะปูโผล่เหนือผิวไม้เล็กน้อยเพื่อง่ายต่อการถอน

การตอกไม้ระแนงเข้ากับมุมผนังต้องให้ขอบสันไม้ระแนงได้แนวกับแนวผิวปูนอีกด้านหนึ่งของมุมที่ต้องการฉาบพอดี เมื่อฉาบปูนไปแล้ว ปูนฉาบจะอยู่ในระดับเดียวกับขอบไม้ระแนง รอจนกระทั่งปูนที่ฉาบแห้งสนิท จึงค่อยๆงัดไม้ระแนงออก จากนั้นค่อยย้ายมาตีไม้ระแนงที่อีกด้านของหัวมุมของผนัง เพื่อเตรียมโบกปูนปลาสเตอร์อีกด้านตามขั้นตอนเดิม หลังจากเสร็จสิ้นการฉาบปูนแล้ว ก่อนที่ปูนจะแห้งให้ใส่ถุงมือยางจุ่มน้ำให้เปียกแล้วลูบลบมุมผนังให้มนเล็กน้อย

การอุดรูในรอยแตกของผนังกั้นห้อง

การอุดรูในผนังกั้นห้องที่สร้างด้วยแผ่นกระเบื้องกระดาษที่มีด้านในกลวงนั้น ให้ตัดขอบที่เป็นรูให้มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม หาเศษไม้อัดหรือแผ่นกระเบื้องกระดาษที่เหลือๆ ตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมให้พอจะสอดเฉียงๆเข้าไปในรู แต่ต้องมีขนาดใหญ่พอที่จะปิดรูได้รอบด้าน จากนั้นให้ดึงแผ่นออกมา เจาะรูตรงกลางแล้วร้อยเชือกเข้าไปโดยผูกตะปูไว้ที่ปลายเชือกเพื่อยึดแผ่นกับผนัง

เมื่อเสร็จแล้วให้ยาปูนรอบๆแผ่นดังกล่าวบนด้านที่ไม่มีตะปู สอดแผ่นเข้าไปในรูฝาผนังอีกครั้ง แล้วดึงเส้นเชือกให้แผ่นอัดติดกับฝา ดึงเชือกให้ตึงในขณะที่กำลังฉาบปูนอุดรูสี่เหลี่ยม เมื่อปูนแห้งสนิทแล้วให้ตัดเชือกทิ้ง

การอุดรูรอบกรอบหน้าต่าง

การอุดรูรอบกรอบหน้าต่าง

ถ้ามีรอยรั่วรอบขอบประตูหรือหน้าต่าง ให้แงะหรือขูดซีเมนต์เก่าๆออกให้หมด เช็ดฝุ่นที่อยู่รอบๆ และถ้าไม้ชื้นให้ใช้เครื่องเป่าผมเป่าให้แห้งซะก่อน จากนั้นใช้ยาอุดวัสดุอุดให้ลึกแน่นลงไปในช่องว่างจนเต็มมาถึงขอบ แล้วใช้ผ้าขี้ริ้วเปียกๆหรือนิ้วมือปาดขอบให้เรียบในขณะที่วัสดุอุดยังเปียกอยู่

การขูดเอาวัสดุที่ไม่ต้องการออก

ถ้าวัสดุอุดหยดลงบนพื้น ต้องรอให้วัสดุอุดนั้นแห้งซะก่อน แล้วจึงจะใช้มีดขูดออก อย่าพยายามขูดตอนที่ยังไม่แห้ง เพราะจะยิ่งทำให้วัสดุอุดกระจายตัวออกไปและเอาออกได้ยากกว่าเดิม