Thursday, 12 December 2024

สวนปีศาจ – ความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากมดของป่าฝนอเมซอน

สวนปีศาจ (Devil’s Gardens) ป่าฝนเขตร้อนมีประชากรหนาแน่นด้วยความหลากหลายของพืชพรรณ ตั้งแต่ต้นไม้นานาชนิดไปจนถึงเถาวัลย์ ไม้พุ่ม และดอกไม้ แต่ลึกเข้าไปในป่าฝนอเมซอนที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยต้นไม้เพียงชนิดเดียว เหล่านี้เราเรียกมันว่า สวนปีศาจ

ที่มาของสวนปีศาจแห่งป่าฝนอเมซอน

ชนเผ่าพื้นเมืองในป่าฝนอเมซอน ต่างก็รู้จักสวนแห่งนี้มาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว หรืออาจจะหลายพันปีแล้วก็เป็นได้ และพวกเขามีตำนานท้องถิ่นที่น่าขนลุกที่พูดถึงวิญญาณชั่วร้าย อันที่จริง เรื่องราวเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดชื่อของผืนแผ่นดินที่มีพืชลึกลับที่สุ่มกระจายไปทั่วป่า ชาวบ้านหลายคนเชื่อว่า พวกมันถูกวิญญาณชั่วร้ายปลูกเอาไว้ และใครจะไปแย้งความเชื่อนี้ของพวกเขาได้ละ?

ท้ายที่สุด เราจะอธิบายให้คุณรู้ว่า พื้นที่ขนาดใหญ่ของป่าฝนที่มีความหลากหลายซึ่งมีต้นไม้เพียงชนิดเดียวที่จะเจริญเติบโตได้นี้มันมีอยู่ได้อย่างไร เมื่อสองสามปีก่อน นักวิจัยพบว่า Devil’s Gardens หรือที่เรียกกันว่า สวนปีศาจ มันไม่ใช่งานที่เกิดขึ้นมาจากพวกจอมมาร หรือ ปีศาจร้ายตามความเชื่อ แต่มันเป็นเพราะมดตัวเล็กๆ ที่มีจุดมุ่งหมายเพียงเพื่อความอยู่รอดของที่อยู่อาศัยของมันเท่านั้น

สวนปีศาจ – ความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากมดของป่าฝนอเมซอน

สวนปีศาจแห่งป่าฝนอเมซอนประกอบด้วย พืชพันธุ์เดียวเกือบทั้งหมด คือ Duroia hirsuta ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีรากซึ่งมีสารยับยั้งการเจริญเติบโตของพืชชนิดอื่นอย่างแข็งแกร่ง เป็นเวลาหลายปี ที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า มันคือสารยับยั้ง Plumericin ที่ทำให้ชีวิตพืชชนิดอื่นๆ อยู่ร่วมด้วยไม่ได้ แต่ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 ทีมนักวิทยาศาสตร์ ค้นพบว่า มันเป็นต้นไม้ที่อาศัยอยู่ในต้นไม้ที่ฆ่าพืชใดๆ ที่เข้ามาใกล้บ้านของพวกเขา

ในปี 2548 เมแกน อี. เฟรเดอริคสัน นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดและทีมของเธอได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาสี่ปีของสวนปีศาจ พวกเขารายงานว่ามี Duroia hirsuta ไม่ได้เป็นที่มาในการฆ่าพืชใด ๆ ที่บุกรุกเข้ามาในอาณาเขตของตน แต่เป็นเพราะ Myrmelachista schumanni หรือที่เรียกว่า ‘lemon ant’ ต่างหากละ

หลังจากวิเคราะห์ Devil’s Gardens ในป่าฝนอเมซอนและทำการทดลองด้วยตัวเอง กอร์ดอนและทีมของเธอพบว่าโดยทั่วไปแล้ว มดมะนาว สร้างพื้นที่ที่มีพืชชนิดเดียวที่แปลกประหลาดเหล่านี้โดยการฉีดสารกำจัดวัชพืชตามธรรมชาติ กรดฟอร์มิก ลงในพืชชนิดอื่นที่ไม่ใช่ duroia hirsuta .

เมแกน อี. เฟรเดอริคสันกล่าวว่า “ด้วยการฆ่าพืชชนิดอื่น มดมะนาว ( M. schumanni ) ทำให้อาณานิคมของมันมีพื้นที่ทำรังมากมาย ซึ่งเป็นประโยชน์ที่ยั่งยืน เนื่องจากอาณานิคมสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึง 800 ปี” “แนวคิดก็คือ การฆ่าพืชชนิดอื่น แล้วพวกมันก็จะสร้างพื้นที่สำหรับต้นกล้าอ่อน D. hirsuta ที่จะเติบโต ซึ่งจะทำให้อาณานิคมมดขยายออกในขณะที่มันเข้าทำรังใหม่ในต้นอ่อนพวกนั้น”

เมื่อนักวิจัยแนะนำพืชสายพันธุ์อื่นๆให้กับมดมะนาว ทั้งใน Devil’s Gardens ตามธรรมชาติและในห้องปฏิบัติการ นักวิทยาศาสตร์รายงานว่า มดมะนาวมีการตอบสนองเกือบจะในทันที พวกเขาโจมตีผู้บุกรุกทันที โดยฉีดกรดฟอร์มิกเข้าไปในใบ ซึ่ง พืชจะเริ่มตายภายใน 24 ชั่วโมง ใบบนต้นอ่อนส่วนใหญ่ตายภายใน 5 วัน

เห็นได้ชัดว่า Devil’s Gardens เริ่มต้นด้วยราชินีมดมะนาวที่ตั้งรกรากอยู่บนต้น Duroia hirsuta เพียงต้นเดียว ในเวลาต่อมา กล้าไม้ใหม่ของสายพันธุ์เดียวกันก็จะเริ่มเติบโตในพื้นที่ที่มดกำจัด และอาณานิคมของพวกมันก็เติบโตขึ้น การวิจัยพบว่า ความผิดปกติทางพฤกษศาสตร์เหล่านี้เติบโตในอัตรา 0.7% ต่อปี ซึ่งตัดสินจากขนาดบางส่วน แสดงให้เห็นว่าสวนแห่งนี้อาจมีอายุมากกว่า 800 ปี

เมื่อเห็นว่ามดตัวเล็ก ๆ เหล่านี้สามารถฆ่าคู่แข่งของพวกมันได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด ก็ยังมีคนสงสัยว่าทำไมป่าฝนจึงไม่ได้มีแค่ต้นไม้เพียงสายพันธุ์เดียว นั้นก็เพราะว่าเมื่ออาณานิคมเติบโตขึ้นและสวนเติบโตเกินขนาดที่เกินกำลังของพวกมัน เหล่ามดเองก็ไม่สามารถปกป้องมันจากการบุกรุกพืชพรรณชนิดอื่นได้อีกต่อไปได้เช่นกัน

Devil’s Garden เป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจสำหรับนักชีววิทยาหลายคน เนื่องจากมันเผยให้เห็นว่า มดสามารถควบคุมธรรมชาติของพืชพันธุ์ได้ พวกมันสามารถอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ทำให้เกิดโครงสร้างชนิดเดียวในระบบนิเวศที่มีความหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นั่นคือ ป่าฝนอเมซอน.

อ้างอิง : odditycentral