รู้หรือไม่ว่า … คุณไม่ควรชาร์จโทรศัพท์ของคุณระหว่างนอนหลับ – ก่อนเข้านอน พวกเราส่วนใหญ่มักจะชาร์จโทรศัพท์เพื่อให้แน่ใจว่าโทรศัพท์พร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้หรือป่าว ในกรณีนี้เราจะยกตัวอย่าง การชาร์ตแบตโทรศัพท์ IPhone ให้ดูว่า มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหากคุณยังคงทำแบบนี้อยู่ !
ทำไมคุณถึงไม่ควรชาร์จโทรศัพท์ของคุณระหว่างนอนหลับ?
Adrian Kingsley-Hughes ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเขียนจดหมายถึง Zdnet เขาให้เหตุผลว่า การทำเช่นนี้บ่อยๆหรือเป็นประจำ อาจทำให้ iPhone ของเราได้รับความเสียหายได้
Apple ได้ทำการตั้งค่าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จแบตเตอรี่เข้ากับ IOS เอาไว้ ซึ่งจะทำให้โทรศัพท์ของคุณไม่สามารถชาร์จได้ เมื่อแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานถึง 80 เปอร์เซ็นต์ และมันจะชาร์ตเพิ่มอีก 20 เปอร์เซ็นต์ในเวลาที่คุณจะตื่นเท่านั้น
ซึ่งหมายความว่าโทรศัพท์ของคุณ ในตอนเสียบปลั๊กไว้ตลอดทั้งคืน มันจะชาร์จในอัตราที่ช้าลง ซึ่งถ้าคิดให้ดีแล้ว มันก็ไม่มีประสิทธิภาพมากนักเมื่อคุณลอวตระหนักถึงเรื่องนี้ดีๆ
ลองสังเกตดูสิว่า …
เมื่อคุณเคยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาในตอนตื่นนอนขึ้นตอนเช้า และรู้สึกว่าโทรศัพท์จองคุณนั้นอุ่นกว่าปกติหรือไม่? นี่คือสาเหตุของการชาร์จโทรศัพท์เอาไว้ทั้งคืน และมันอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ในอนาคต
“ความร้อนเป็นตัวทำลายแบตเตอรี่”
เมื่อ iPhone ของคุณเชื่อมต่อกับแท่นชาร์จ เครื่องจะอุ่นขึ้น ซึ่งมันมักจะเพิ่มอุณหภูมิขึ้น มากกว่าอุณหภูมิห้อง ประมาณ 2-3 องศา
สาเหตุที่ทำให้อุปกรณ์ของคุณแย่ลง นั้นก็เพราะความร้อนที่เกิดขึ้นนี้ มันสามารถทำลายแบตเตอรี่ของคุณได้
การทำเช่นนี้เป็นเวลา 8 ชั่วโมงต่อคืนทุกๆคืน หมายความว่า คุณกำลังทำลายประสิทธิภาพของแบตเตอรี่โทรศัพท์โดยไม่จำเป็น
Adrian เขียนว่า: “ความร้อนเป็นตัวทำลายแบตเตอรี แม้ว่าคุณจะไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับการสึกหรอตามปกติของแบตเตอรี่จากการถูกชาร์จและคายประจุได้ แต่ความร้อนคือสิ่งที่คุณสามารถทำได้
“เมื่อ iPhone ของคุณเชื่อมต่อกับที่ชาร์จ เครื่องจะอุ่นขึ้น อุ่นกว่าที่ไม่ได้เชื่อมต่อ และแม้ว่าการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมินั้นอาจสูงกว่าอุณหภูมิห้องเพียงไม่กี่องศา แต่การทำเช่นนี้ในชั่วข้ามคืน ทุกคืน มันจะส่งผลต่อประสิทธิภาพของมือถือของคุณได้”
ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการชาร์จ iPhone ของคุณคืออะไร?
แทนที่จะต้องเสียบปลั๊กเป็นเวลานาน คุณสามารถชาร์จเติมแบตเตอรี่เล็กน้อยได้ 2 ครั้งต่อวัน
การใช้ที่ชาร์จแบบมาตรฐานทำให้ iPhone สามารถชาร์จจากศูนย์ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ได้ในเวลาประมาณ 30 นาที การทำเช่นนี้ในตอนเช้าและอีกครั้งในช่วงบ่ายหรือตอนเย็นสามารถช่วยรักษาอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้
แน่นอนว่า หากคุณกำลังจะออกไปข้างนอกหรือนั่งรถ คุณจะต้องพกพาวเวอร์แบงค์หรือที่ชาร์จในรถติดตัวไปด้วย แต่ถ้าคุณอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงาน การชาร์จวันละสองครั้งก็ไม่เป็นไร
แนวปฏิบัติของเอเดรียนมีดังนี้: “ฉันชาร์จ [iPhone] เป็นเวลา 30 ถึง 45 นาทีในตอนเช้าหลังจากที่ฉันตื่นขึ้น (ฉันชาร์จ Apple Watch ไปพร้อมกันด้วย)
“จากนั้นฉันก็ชาร์จประมาณช่วงบ่ายแก่ๆ อีก 30 นาทีหรือประมาณนั้นเพื่อให้ถึง 80% ซึ่งปกติก็เพียงพอแล้วที่จะมีแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานไปถึงเช้าวันรุ่งขึ้น นี่เป็นเหตุผลที่ Apple ได้แนะนำการอัปเดตการชาร์จสำหรับ iOS อยู่ตลอด .”
และนี่คือคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการชาร์จแบตเตอรี่ที่เหมาะสมที่สุด
คำแนะนำเกี่ยวกับการชาร์จแบตเตอรี่ที่เหมาะสมที่สุด Apple กล่าวว่า:
“อายุการใช้งานของแบตเตอรี่นั้นมีความเกี่ยวข้องกับอายุทางเคมีของมัน ซึ่งมากกว่าระยะเวลาตั้งแต่ประกอบแบตเตอรี่ ” อายุทางเคมีของแบตเตอรี่เป็นผลมาจากปัจจัยหลายอย่างรวมกันที่ซับซ้อน รวมถึงประวัติอุณหภูมิและรูปแบบการชาร์จ
การอัพเดต IOS ให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอนั้นมีผลกับแบตเตอรี่
“ด้วย iOS 13 และในรุ่นที่ใหม่กว่า การเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จแบตเตอรี่ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดการสึกหรอของแบตเตอรี่และปรับปรุงอายุการใช้งาน โดยลดระยะเวลาที่ iPhone ของคุณชาร์จจนเต็มลง
ซึ่งคุณสมบัติในปัจจุบันนี้ก็คือ : ” iPhone ของคุณจะชะลอการชาร์จเกิน 80 เปอร์เซ็นต์ในบางสถานการณ์ เช่นในระหว่างกลางคืนที่คุณกำลังนอนหลับ”
นั้นก็เพราะว่า ….
“iPhone ของคุณจะจดจำและเรียนรู้การใช้งานเครื่องในอุปกรณ์ มันจะคอยเรียนรู้กิจวัตรการชาร์จประจำวันของคุณ” ดังนั้นมันจึงพยายามปรับการชาร์จแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับเครื่องเท่านั้น แทนที่จะเปิดใช้งานการชาร์ตไว้ตลอดทั้งคืน มันจะชาร์ตไว้เพียงแค่ 80 % เท่านั้น และหยุดการชาร์ตไว้ จนกว่าจะถึงเวลาที่คุณใกล้จะตื่นนอน มันถึงจะชาร์ตต่ออีก 20 % ที่เหลือ (เมื่อ iPhone ของคุณคาดการณ์ว่าจะมันจะต้องเชื่อมต่อกับที่ชาร์จเป็นระยะเวลานานมันจะชะลอระยะเวลาในการชาร์จลง)
“อัลกอริทึมนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้แน่ใจว่า iPhone ของคุณยังคงชาร์จเต็มอยู่เมื่อไม่ได้เสียบปลั๊ก”
แต่ยังไงก็ตามเราก็ไม่ควรชาร์จมันไว้ข้ามคืนอยู่ดี เพราะการชาร์จทิ้งไว้ระหว่างนอนหลับ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของแบตเสื่อมนะจ๊ะ !
อ้างอิง : ladbible