การเช็คสินค้าว่าของแท้หรือของปลอมนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะปัจจุบันของปลอมมีจำนวนมากขึ้นทุกวัน ตั้งแต่สมาร์ทโฟนปลอมที่มีหน้าจอบางกว่าไปจนถึงกระเป๋าปลอมที่ทำด้วยหนังแท้
มันยากที่จะมองเห็นหรือตัดสินด้วยสายตา เนื่องจากสินค้าเหล่านี้มันมักดูเหมือนว่าไม่มีความแตกต่างกันเลย แต่ถ้าหากคุณลองมองดูใกล้ ๆ อีกนิดก็จะพบความแตกต่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ของสินค้าตัวนั้น
วิธีเช็คสินค้าว่าแท้หรือปลอม?
1.ลองตรวจสอบดูว่าโลโก้บนแกดเจ็ตมีลักษณะเป็นอย่างไร?
แกดเจ็ตปลอมไม่เพียงแต่เป็นสินค้าที่มีคุณภาพต่ำ แต่ยังอาจเป็นอันตรายได้ เนื่องจากสินค้าพวกนี้ไม่ผ่านการทดสอบหรือการรับรองที่ถูกต้อง แต่ในกรณีที่คุณอยู่ในสถานการณ์ที่คุณไม่รู้ว่า มันใช่ของปลอมหรือของแท้ นี่คือเคล็ดลับ!
- โลโก้จะพิมพ์ผิดหรือทิ้งช่วงกัน ขาดๆ หายๆ คุณสามารถตรวจสอบโลโก้ดั้งเดิมบนโทรศัพท์ของคุณและเปรียบเทียบกับแกดเจ็ตที่เป็นปัญหาได้ อย่ารีบเร่งตัดสินใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากเป็นการซื้อสินค้าในราคาแพง
- รู้สึกเบาเกินไป
- มีสีเหลืองแทนที่จะเป็นสีขาว
- ดูเหมือนว่าพลาสติกทำมาไม่ดีหรือประกอบเข้าด้วยกันไม่ดีพอ
2.ตรวจสอบโลหะและเสียงจากนาฬิกา
ตลาดนัดออนไลน์อาจเป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมในการค้นหานาฬิกาหรูหราหายาก แต่สิ่งสำคัญคือต้องรู้วิธีตรวจจับการฉ้อโกงสินค้าเหล่านี้ด้วย :
- นาฬิกาที่แพงที่สุดจะมีกลไกที่ราบเรียบ ซึ่งหมายความว่า มันจะไม่มีเสียงเข็มนาฬิกาดัง ลองวางนาฬิกาไว้ใกล้หูและถ้าคุณได้ยินเสียงใดๆ คุณไม่ควรซื้อมัน
- การแกะสลักบนนาฬิกาชั้นดีโดยทั่วไปจะคมชัดกว่า
- นาฬิกาปลอมมักทำด้วยวัสดุราคาถูกและเบากว่าของเดิม
3.ตรวจสอบการเย็บเสื้อผ้าและรองเท้า
คุณภาพของสินค้าดั้งเดิมและราคาแพงก็แตกต่างกันเช่นกัน หากเป็นของแท้การเย็บจะสะอาดกว่าและแน่นกว่ามากไม่เหมือนกับของปลอม เสื้อผ้าและรองเท้าแบบดั้งเดิมมักมีรอยเย็บต่อตารางนิ้ว เส้นจะไม่ตรงเหมือนกันเพราะของปลอมจะใช้วัสดุน้อยกว่า เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า
4.ตรวจสอบแท็กบนเสื้อผ้า
ตรวจสอบแท็กบนเสื้อผ้าเสมอ เพราะมันสามารถบ่งบอกเราได้มากมายว่าแบรนด์นั้นเป็นของปลอมหรือไม่?
- ผู้ผลิตตัวปลอมมักใช้อุปกรณ์โรงงานคุณภาพต่ำ ดังนั้นแท็กและฉลากอาจเย็บไม่ดีเท่าของจริง
- ใส่ใจในรายละเอียด ป้ายขนาดจะเป็นสีที่แตกต่างกันและมีคุณภาพไม่ดี เมื่อเทียบกับชิ้นงานต้นฉบับและตัวอักษรบนป้ายอาจมีระยะห่างที่แตกต่างกัน
- บ่อยครั้งที่มีหมายเลขซีเรียลบนป้ายขนาดสำหรับแบรนด์ที่มีราคาแพง
5.ตรวจสอบการห่อเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณ
การใช้พวกเครื่องสำอางของปลอมนั้นไม่ใช่เรื่องตลก! นั่นเป็นเพราะเราใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้กับร่างกายของเรา เราจึงอยากทราบว่าทุกอย่างผ่านการทดสอบและรับรองว่าปลอดภัยมากพอหรือไม่ ลองอ่านวิธีเช็คเครื่องสำอางปลอมเหล่านี้ดู :
- โดยปกติกระดาษแก้วควรพันรอบกล่องให้แน่น ไม่มีร่องรอยการแกะ
- ผลิตภัณฑ์ปลอมมักมีปลอกพลาสติกหรือโลหะคุณภาพต่ำ
- ชื่อของเฉดสีควรพิมพ์บนสติกเกอร์ตรงข้ามกับกล่อง
- ผลิตภัณฑ์ที่ดีควรใส่ลงในกล่องอย่างพอดี
6.ตรวจกระดุมบนเสื้อผ้าหรือกระเป๋า
หากคุณต้องการซื้อแจ็คเก็ต เสื้อโค้ทหรือเสื้อกันฝน ให้ดูที่กระดุมทั้งด้านในและด้านนอก แบรนด์ชั้นดีจะมีพลาสติกคุณภาพดีพร้อมสลักชื่อ บริษัท เอาไว้ ส่วนพวกสินค้าลอกเลียนแบบจะใช้พลาสติกราคาถูกและเบา และบางครั้งอาจไม่มีป้ายกำกับ นอกจากนี้หากเป็นของแท้ควรจะมีการเย็บกระดุมอย่างแน่นหนาและจะไม่ถูกเย็บเพียงไม่กี่เข็ม
7.ตรวจสอบคุณภาพของหน้าจอเมื่อซื้อสมาร์ทโฟน
พวกสินค้าลอกเลียนแบบอาจดูเป็นมืออาชีพอย่างเหลือเชื่อ และบางครั้งก็ยากที่จะพบความแตกต่างระหว่างสมาร์ทโฟนปลอมกับ สมาร์ทโฟนแบบดั้งเดิม แต่ถึงกระนั้นก็เป็นไปได้เมื่อคุณลองเช็คดูสิ่งต่อไปนี้:
- เมื่อคุณเปิดโทรศัพท์เป็นครั้งแรก หน้าจอจะไม่สว่างเหมือนตอนที่คุณทดสอบ iPhone7
- ตัวเลขในปฏิทินอาจมีแบบอักษรที่แตกต่างกัน
- หน้าจอไม่ควรหยาบหรือเป็นเม็ดเล็ก ๆ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อใช้แผงความละเอียดต่ำ
- ภาพไม่ควรพร่ามัว
8.ดาวน์โหลดแอปพิเศษสำหรับตรวจจับของปลอม
หากคุณตัดสินใจที่จะยกระดับการค้นหาการฉ้อโกงรูปแบบนี้ คุณสามารถอัปโหลดแอปพิเศษที่สามารถตรวจจับเสื้อผ้า รองเท้า และเครื่องประดับปลอมได้ วิธีนี้เมื่อคุณซื้อสินค้าจากร้านค้าต่างๆจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการหลอกลวง และช่วยให้คุณประหยัดเงินได้
แอปตรวจจับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จะปรากฏผลเหมือนในภาพด้านบน ตัวอย่างเช่น “จุดบังหน้าเท้า” จะสั้นกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสินค้าที่เป็นของแท้
อ้างอิง : Brightside