แค่คิดว่าคุณใช้คำว่า“ ขอโทษ” กี่ครั้งในช่วงเวลาหนึ่งวัน และกี่ครั้งด้วยเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมาย? นักสังคมวิทยากล่าวไว้ว่าการขอโทษอย่างไม่จำเป็นกลายเป็นวิธีสื่อสารของเราที่ติดเป็นนิสัย แต่จริง ๆ แล้วคำพูดว่าขอโทษเหล่านั้นมันกำลังทำลายความมั่นใจของตัวเรา.
และนี้คือสถานการณ์ที่คุณไม่ควรพูดคำว่า ‘ขอโทษ’
1.เมื่อคุณกำลังพูดความจริง
มันไม่จำเป็นเลย ที่คุณต้องขอโทษไว้ก่อน ในการบอกความจริงเพราะ ในกระบวนการของนักจิตวิทยาเชื่อว่าประโยชน์ของการเป็นคนซื่อสัตย์ มักจะมีอิทธิพลเหนือความพยายามที่จะไม่ทำร้ายความรู้สึกของใครบางคน พยายามกำหนดความคิดของคุณโดยไม่เริ่มต้นด้วยคำว่า “ ฉันขอโทษ” แต่ให้เปลี่ยนมาใช้วลี เช่น“ ฉันคิดว่า” หรือ “ ในความคิดของฉัน” สิ่งนี้จะทำให้คุณเป็นคนที่สามารถให้คำแนะนำกับคนอื่นแล้วทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าเสมอ.
2.เมื่อเวลาที่คุณรู้สึกอ่อนไหวหรือสะเทือนอารมณ์
“ เมื่อคุณต้องการให้ใครสักคนรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไร หรือเพื่อให้ใครคนนั้นเข้าใจคุณ คุณควรจะพูดกับเขาแบบตรงไปตรงมา” ดอนน่าแฟล็กก์ ผู้แต่ง บทสนทนาที่เกี่ยวกับการอยู่รอดจากความกลัว กล่าวว่า ทำไมคุณต้องขอโทษด้วย? ถ้าหากคนๆนั้นมีความหมายกับคุณมากจริงๆ? คุณควรจะอยากรู้เกี่ยวกับความรู้สึกของพวกเขาสิ่
ยิ่งไปกว่านั้นการแสดงออกของความรู้สึกมันไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าอายใดๆเลย ถึงอย่างไรก็ตามให้แน่ใจว่าคุณเปิดใจพูดคุยกันในสถานที่ที่เหมาะสม ไม่ใช่ในการประชุมที่เป็นทางการ ดังเช่นในภาพตัวอย่าง.
3. เมื่อคุณดูแตกต่าง
มันเป็นสิทธิ์ของคุณที่จะทำอะไรในอย่างที่คุณรู้สึกสบายใจที่สุด และสิ่งสุดท้ายที่คุณต้องทำคือ การขอโทษสำหรับสิ่งนั้นหรอ? นี่คือวิธีการที่ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ เว้นแต่เป็นโอกาสที่จำเป็นที่พวกคุณนัดกันใส่ชุดเฉพาะแบบที่กำหนดไว้ก่อน คุณไม่ต้องรีบมองหาสิ่งที่คนอื่นคิดว่าเหมาะสม เป็นตัวของตัวเองเสมอ และนำความหลากหลายที่มีสีสันมาสู่โลกของเรา มันเป็นอะไรที่ดีกว่ากันเยอะ!
4.เมื่อคุณต้องการอยู่กับตัวเอง
ความปรารถนาที่จะอยู่กับตัวเองตามลำพังไม่ได้เป็นสัญญาณว่าคนๆ นั้นมีอารมณ์ไม่ดี ที่จริงแล้วการวิจัยชี้ให้เห็นว่าการใช้“ เวลากับตัวเอง” ให้มากขึ้นจะนำไปสู่การเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ของเรา ดังนั้นอย่าเสียใจที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม ไม่ว่าเหตุผลของคุณคืออะไร และคุณก็แค่ฟังความรู้สึกและความต้องการของคุณเอง เท่านั้นก็พอแล้ว.
5.เมื่อคุณถามคำถาม
ในหลายกรณีเราไม่รู้สึกสะดวกสบายในการถามคำถาม เพราะเรากลัวว่าจะดูโง่ในสายตาของใครบางคน อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญคิดว่า นี่ไม่ใช่ทัศนคติที่ถูกต้อง หากคุณต้องการประสบความสำเร็จ อย่ารู้สึกเสียใจที่ไม่เข้าใจบางสิ่ง และอย่ากลัวที่จะขอคำอธิบายหรือความช่วยเหลือเพิ่มเติม ถ้าคนอื่นตัดสินคุณในการถาม ก็จะขึ้นอยู่กับความคิดของเขาไม่ใช่ของคุณ.
6.เมื่อคุณไม่ตอบสนองต่อสิ่งใดในทันที
จะมีบางคนที่พิจารณาความต้องการของตนเองว่าสำคัญกว่าเรื่องของคุณ บุคคลประเภทนี้ต้องการคำตอบตอบกลับทางอีเมลข้อความของพวกเขาอย่างฉับพลันทันที โดยไม่คิดแม้แต่น้อยว่าคุณอาจยุ่งอยู่กับสิ่งต่าง ๆ
คุณอย่าตกหลุมพรางนี้ – อย่าเสียใจที่ไม่ได้จัดการกับกรอบเวลาของคนอื่น หากไม่ใช่คำถามฉุกเฉินจริง เพียงแจ้งให้พวกเขารู้ว่าคุณจะไม่ลืมมัน แต่จะตอบกลับเมื่อเป็นไปได้ ในขณะที่เบรนบราวน์ กล่าวถึงในหนังสือของเธอ การรักตัวเองให้มากกว่าที่คุณรักคนอื่น เป็นขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุดในการแสวงหาความสุขและความสมหวัง.
7.เมื่อมีสิ่งที่คุณไม่สามารถควบคุมได้เกิดขึ้น
มีสถานการณ์เกิดขึ้นมากมายที่คุณไม่สามารถควบคุมได้ แม้ว่าเราจะวางแผนทุกอย่างไว้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น การประชุมสาย เนื่องจากการจราจรการติดขัด การรับคำสั่งที่ผิด หรือความผิดพลาดทางเทคนิคที่ทำให้งานนำเสนอของคุณเสียหาย – สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เสมอและคุณไม่ควรรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลก
แทนที่จะเป็นการดีกว่าที่จะขอบคุณคนอื่น (หรือสิ่งรอบตัวอื่นๆ) เพื่อแสดงให้เห็นว่าสิ่งเหล่ามีความสำคัญต่อต่อคุณเช่นกันและมันเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ทำให้ทุกคนมีความสุขได้มากกว่าคำว่า ขอโทษ.
8.การขอโทษแทนคนอื่น
พวกเราหลายคนคงคุ้นเคยกับสถานการณ์ที่เรารู้สึกอึดอัดใจเพราะพฤติกรรมของคนอื่น ปรากฏการณ์นี้ เรียกว่า ความอับอายขายหน้า และมันจะมีความเชื่อมโยงกันในระดับสูงของการเอาใจใส่ในบุคคลข้างๆตัวเรา อย่างไรก็ตามคุณไม่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่คุณไม่มีความผิดก็ได้นะ จริงมั้ย.
คุณอย่าขอโทษในสิ่งที่คุณไม่ได้ผิดเลย ลองเปลี่ยนแปลงมันดูนะ!
ข้อมูลและรูปภาพ : brightside.me