การดูแลลูกๆเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งเสมอ แต่ถ้าหากเด็กๆมีการพูดจาหรือสื่อสารด้วยท่าทางที่ไม่เหมาะสม มันอาจจะทำให้คุณรู้สึกปวดใจ แต่คุณสามารถหาทางออกและจัดการกับสถานการณ์เหล่านี้ได้ด้วยวิธีการพูดคุยกับเด็กๆโดยวิธีเหล่านี้หากพวกเขาทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
ขั้นตอนที่ 1: หลีกเลี่ยงการตอบสนองด้วยน้ำเสียงเดียวกัน
มันเป็นเรื่องยากที่จะสงบสติอารมณ์ในบางครั้ง เมื่อลูกของคุณพูดจายอกย้อนคุณกลับมา แต่สิ่งสำคัญคือการตรวจสอบภาษาที่ใช้ในการพูดคุยของตัวคุณเอง คุณควรพยายามเป็นตัวอย่างของการแสดงความเคารพ การตะโกน การกรีดร้อง หรือคำพูดที่ไม่ดี ที่สำคัญคุณไม่ควรปลุก Hulk ในตัวคุณขึ้นมาต่อหน้าเด็กๆ
ในขณะเดียวกันอย่าปล่อยให้ลูกพูดคุยกับคุณต่อ คุณควรกำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับพฤติกรรม และให้การตอบสนองเมื่อคุณได้ยินคำพูดจากเด็กๆ อย่างเช่น: “ ดีมากๆ” “ ใช่แล้วล่ะ ถูกต้อง” “ขอทีเถอะ” “ ไม่ว่ายังไงก็ตาม” บอกลูกของคุณว่าปฏิกิริยาของพวกเขานั้นไม่เหมาะสม ควรหยุดพฤติกรรมเหล่านี้ และให้โอกาสพวกเขาในการแก้ไขพฤติกรรม อย่าใช้ประโยคเช่น “ อย่าพูดนะ ห้ามพูด” และคุณควรจะคุกเข่าลงที่ระดับสายตาของลูกเมื่อคุณพูดกับพวกเขา.
ขั้นตอนที่ 2: พยายามเข้าใจปัญหาที่พวกเขาเจอ
อย่าลืมว่าลูกของคุณยังต้องเรียนรู้วิธีควบคุมพฤติกรรมของพวกเขา และบางครั้งพวกเขาก็ไม่รู้วิธีรับมือกับปัญหา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติ เมื่อพวกเขาขาดความอดทน หลังจากถึงขีดจำกัด คุณควรพยายามที่จะเข้าใจปัญหาที่พวกเขามี บ่อยครั้งที่เด็กๆพูดกับเรา พวกเขาจะแสดงความรู้สึกโกรธ หงุดหงิด เจ็บหรือกลัว ออกมา.
ให้แน่ใจว่าคุณใช้เวลาอย่างน้อย 15 นาทีกับเด็กแต่ละคนในทุกวัน ให้ความสนใจกับพวกเขาและให้ความสนใจในเชิงบวก พยายามเข้าใจความต้องการความหวัง และความฝันของพวกเขา ลูกของคุณอาจสนใจศึกษาจักรวาล และคุณไม่เคยพาพวกเขาไปยังท้องฟ้าจำลองก็เป็นได้.
ขั้นตอนที่ 3: บอกลูกของคุณว่าคุณรู้ว่าพวกเขาอารมณ์เสีย
นักจิตวิทยาแนะนำให้ใช้คำพูดเช่น:“ โอ้! คำพูดเหล่านั้นดูเหมือนว่าลูกตั้งใจจะทำให้แม่รู้สึกเจ็บใจนะ ลูกคงต้องอารมณ์เสียแน่ๆ ถ้าลูกกำลังพูดกับแม่แบบนั้น” หรือ “ แม่อยากจะฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นของลูกนะ แต่แม่ไม่สามารถฟังเรื่องของลูกได้เลย เมื่อแม่รู้สึกว่าลูกกำลังพูดจาโจมตีแม่อยู่ตลอดเวลา” จากนั้นแนะนำให้พวกเขาเล่าถึงปัญหา เมื่อคุณทั้งคู่ดูมีโอกาสที่จะใจเย็นลง.
ขั้นตอนที่ 4: แสดงให้เห็นถึงผลของการกระทำที่ไม่เหมาะสม
เด็กๆ ควรรู้ว่าการเป็นคนสุภาพจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาอย่างไร ผู้ปกครองไม่ควรเพิกเฉยคำที่ไม่ดีหรือการกลอกตาใส่คุณที่เด็กๆทำ บางครั้งคุณอาจใช้การเตือนเล็กน้อยแม้ว่าจะเป็นหลังจากที่คุณกำลังพยายามยอมรับปัญหาอารมณ์ไม่ดีของเด็กๆก็ตาม
ลูกของคุณควรรู้ว่าพวกเขาต้องคาดหวังอะไรในแต่ละครั้งที่พูดคุยกัน ดังนั้นจงเจาะจงและแสดงให้เห็นว่าคุณไม่เห็นด้วยกับการไม่เคารพ นอกจากนี้คุณสามารถกำหนดผลลัพธ์ที่ตามมาของพฤติกรรมที่ไม่ดี โดยการเพิ่มงานพิเศษหรือดเวลาดูทีวีหรือเล่นคอมพิวเตอร์ลง เช่น :“ เมื่อลูกตัดสินใจที่จะพูดกับแม่อย่างนั้นลูกจะไม่ได้ดูละครในโทรทัศน์ในวันนี้นะ” ในกรณีนี้จะทำให้เด็กๆพิจารณาถึงผลการกระทำอย่างจริงจัง แต่อย่าลืมรักษาสัญญาของคุณด้วยหากเด็กๆยังไม่หยุดพูดจาไม่เหมาะสม.
ขั้นตอนที่ 5: เปิดโอกาสให้ลูกของคุณแสดงความคิดเห็น
โปรดจำไว้ว่า หากเด็กๆมีโอกาสแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างถือเป็นเรื่องที่ดี แต่พวกเขาควรทำอย่างเป็นมิตร และพวกเขาควรรู้ว่าพวกเขาเองก็มีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นของเขาออกมาหรือรู้สึกว่าการแสดงความเห็นเป็นการกระทำที่ปลอดภัย(ไม่เกิดการต่อต้านความเห็นจากพ่อแม่) เป็นการดีกว่าที่จะไม่หยุดพวกเขาหรือตัดบทพวกเขาออก เมื่อพวกเขาพยายามอธิบายสิ่งที่พวกเขาคิด
ฟังและใส่ใจกับปัญหาที่พวกเขามี การแสดงความเห็นอกเห็นใจและความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นลูกของคุณจะไม่ตั้งการ์ดกับคุณ หรือคิดว่าคุณเป็นศัตรู.
ขั้นตอนที่ 6: พยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เด็กๆกำลังพูด
คุณควรสังเกตถึงเบื้องหลังหรือลักษณะการพูดของเด็กๆ เพราะมันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้ ลูกของคุณอาจกลับมาจากโรงเรียนทุกวันด้วยอารมณ์ไม่ดี เลยทำให้เกิการสื่อสารที่ไม่ดีกับคุณ ซึ่งจริงๆแล้วพวกเขาอาจไม่ได้คิดอะไรไม่ดีกับคุณเลย คุณต้องพยายามอย่าไปใส่อารมณ์กับสิ่งที่เด็กพูด เพราะนี่อาจเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาใหญ่และหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เลวร้ายในอนาคต
ขั้นตอนที่ 7: ยกย่องพฤติกรรมที่ดี
ทุกคนชอบความรู้สึกที่ตัวเองถูกชื่นชมและลูกๆของคุณเองก็เช่นกัน หากคุณเห็นว่าลูกของคุณเริ่มหยุดพูดและแสดงความขอบคุณ คุณสามารถกอดพวกเขา ชมเชย หรือแม้แต่ “ ขอบคุณ” พวกเขากลับไปได้
แต่ในเวลาเดียวกันให้แน่ใจว่าเด็กๆ เข้าใจว่าการเป็นมิตรไม่ได้หมายความว่า พวกเขาจะได้รับสิ่งที่ต้องการ.
ข้อมูลและรูปภาพจาก : Bright Side