คนทั่วไปมีจุดไฝบนร่างกายประมาณ 30-40 จุด โชคดีที่ไม่มีการสัมพันธ์กันระหว่างจำนวนไฝและมะเร็งผิวหนัง แต่มันเป็นลักษณะของจุดที่เราควรใส่ใจอย่างยิ่ง การตรวจสอบด้วยตนเองเป็นประจำจะช่วยให้คุณเห็นสิ่งที่น่าสงสัยในเวลาที่อาจจะต้องได้รับความช่วยเหลือจากมืออาชีพและเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบที่อาจร้ายแรงมากขึ้น
แอดจึงขอนำบทความจาก Bright Side มาแปลให้อ่าน ซึ่งเขาได้แสดงแนวคิดพื้นฐานของกฎ ABCDE ที่เป็นที่นิยมซึ่งสามารถช่วยให้คุณรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงไฝได้ในระยะแรก และเป็นโบนัส ที่เราจะได้พบกับเทคนิคการตรวจวิเคราะห์อื่นที่ปรับปรุงความแม่นยำของวิธีการ ABCDE
A หมายถึง Asymmetry (ความไม่สมดุล)
ความไม่สมดุลอาจเป็นสัญญาณว่ามีบางอย่างผิดปกติกับไฝเม็ดนั้น ตุ่มปกติควรมีความสมมาตรซึ่งหมายความว่าครึ่งทั้งสองของมันควรมีลักษณะเหมือนกัน พวกเขาควรจับคู่กันในขนาดสีและรูปร่าง หากคุณลากเส้นจินตภาพจากกึ่งกลางไฝของคุณจะเห็น 2 ส่วนที่ตรงกัน
B หมายถึง Border (กรอบ/ขอบเขต)
โดยทั่วไปแล้วเม็ดไฝที่ราบเรียบนั้นจะมีเส้นขอบที่เรียบและชัดเจน ในขณะที่เม็ดที่มีความอันตราย คุณก็จะเห็นเส้นขอบที่ไม่สม่ำเสมอหรือไม่ปะติดปะต่อกันอยู่ในขอบเขตที่ควรจะเป็น หรืออาจมีบางส่วนค่อยๆหายซึมอยู่บนสีผิวหนังที่แท้จริงของเรา
C หมายถึง Color (สี)
การมีหลายสีในเม็ดไฝของเราอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงบางอย่างเนื่องจากไฝที่มีสุขภาพดีควรเป็นสีเพียงสีเดียว (โดยปกติจะเป็นสีน้ำตาล) หากตัวตุ่มไฝประกอบด้วยเฉดสีที่แตกต่างกันของสีน้ำตาลสีดำสีแดงสีขาวหรือสีน้ำเงินก็อาจเป็นสัญญาณอันตรายที่ถึงเวลาที่เราจะต้องไปพบแพทย์ผิวหนังซะแล้ว
D หมายถึง Diameter (เส้นผ่าศูนย์กลาง)
สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงขนาดของตัวตุ่มไฝของเรา : ถ้ามันมีขนาดใหญ่กว่า 6 มม. (ประมาณ¼นิ้ว) อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงเนื้องอกบางชนิด ซึ่งอาจมีขนาดเล็กกว่านี้ในระยะแรก ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่เราจะใส่ใจกับตุ่มเม็ดอื่น ๆ และไม่ให้ข้อสรุปที่เป็นไปตามลักษณะเดียวเท่านั้น
E หมายถึง Evolving (เกิดการพัฒนา)
จับตาดูว่าไฝของคุณเปลี่ยนแปลงอย่างไรเมื่อเวลาผ่านไป อาจมีความแตกต่างในขนาดรูปร่างหรือสี พื้นผิวของมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อไฝที่มีลักษณะเรียบๆกลายเป็นเนื้องอก หากคุณสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงหรืออาการใหม่ เช่นความเจ็บปวด บวม หรือมีอาการคันคุณควรจะรีบพบแพทย์ของคุณทันที
Bonus : เครื่องหมายของ “ ลูกเป็ดขี้เหร่”
“ สัญญาณลูกเป็ดขี้เหร่” เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการตรวจหามะเร็งที่สามารถใช้ร่วมกับกฎ ABCDE เพื่อการวินิจฉัยที่ดีขึ้น ตามแนวคิดนี้ สิ่งสำคัญ คือ ไม่เพียงตรวจสอบเม็ดไฝเพื่อดูว่าตรงกับเกณฑ์ของไฝปกติหรือไม่ แต่เพื่อเปรียบเทียบกับไฝอื่นๆ บนร่างกาย ไฝที่ดูแตกต่างจากเม็ดอื่นมากที่สุด มันอาจจะเป็นตัวที่ทำให้เกิดมะเร็งได้นะ!
ข้อมูลและรูปภาพจาก : Bright Side