Friday, 26 April 2024

12 สัญญาณเตือนที่คุณควรพาสัตว์เลี้ยงไปหาสัตวแพทย์

น่าเสียดายที่สัตว์เลี้ยงของเราไม่สามารถพูดออกมาได้เอง หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้านายที่ดีควรรู้ถึงอาการหลักของโรคในสัตว์เลี้ยง จากการศึกษาพบว่ามันมักจะมีสัญญาณใดๆเสมอ ที่แสดงว่าคุณควรพาสัตว์เลี้ยงของคุณไปหาสัตว์แพทย์ทันที แทนที่จะมองหาคำตอบทางอินเทอร์เน็ต และมันอาจจะช่วยให้เราเข้าใจสัตว์เลี้ยงอย่างน้องหมาน้องแมวมากขึ้นด้วย

12.หากสัตว์เลี้ยงไม่ยอมกินอาหาร

หากสัตว์เลี้ยงไม่ยอมกินอาหาร

หากสัตว์เลี้ยงของคุณไม่ยอมกินอาหารเป็นเวลานานกว่าหนึ่งวัน ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ควรไปหาสัตว์แพทย์ทันที ยิ่งถ้ามีอาการอื่น ๆ เช่น อ่อนเพลีย อาเจียน และไม่ยอมดื่มน้ำ

การขาดความอยากอาหารนั้น อาจบ่งบอกถึงสภาวะต่างๆเช่น การติดเชื้อ เนื้องอกในปาก หรือโรคกระเพาะอาหาร หรือปรสิต การพาน้องไปพบสัตวแพทย์จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด.

11.หากพวกมันรู้สึกกระหายน้ำมากๆ

หากพวกมันรู้สึกกระหายน้ำมากๆ

โปรดจำไว้ว่าแมวและสุนัขที่กินอาหารสัตว์เลี้ยงแบบแห้งจะดื่มมากกว่าอาหารเปียก

สังเกตดูว่าสัตว์เลี้ยงของคุณดื่มน้ำมากแค่ไหน การที่สัตว์เลี้ยงของเราไม่ยอมดื่มน้ำนั้นจะนำไปสู่ภาวะขาดน้ำ ในขณะที่ถ้ามันดื่มนน้ำมากเกินไปอาจบ่งบอกถึง โรคเบาหวานหรือโรคไต

ปริมาณน้ำดื่มเฉลี่ยสำหรับสุนัขคือประมาณ 20-70 มล. / กก. ของน้ำหนักตัวต่อวัน สำหรับแมว 60-120 มล. บวกความชื้นในอาหาร

10.พยายามแอบซ่อนตัวเองจากคุณ

อยู่ๆพวกมันก็ชอบแอบซ่อนตัวจากคุณ

สัตว์ทุกชนิดมีความแตกต่างกัน แต่เมื่อสัตว์เลี้ยงที่เป็นมิตรตามปกติของคุณเริ่มออกไปอยู่ด้วยตัวเองและซ่อนตัวอยู่ในที่ลับๆนั่นอาจเป็นสัญญาณที่ไม่ดี

ความปรารถนาที่จะซ่อนตัวอาจเกี่ยวข้องกับความรู้สึกไม่สบายโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสัตว์เลี้ยงของคุณไม่ยอมกินอาหาร ไม่ยอมขับถ่าย หรืออาการอื่น ๆ อาจมีอีกสาเหตุหนึ่งคือความเครียดอย่างรุนแรง และหากแมวพยายามซ่อนตัวอยู่ในที่สูงอาจจะเป็นอาการของการถูกเห็บหมัดเกาะทำร้าย.

9.อยู่ๆก็ก้าวร้าวขึ้นมาเฉยๆ

อยู่ๆก็ก้าวร้าวขึ้นมาเฉยๆ

เพื่อนตัวน้อยที่เคยรักใคร่ของคุณเคยก้าวร้าวขึ้นมาทันทีทันใดรึป่าว? ก่อนที่จะลงโทษพวกเขาให้ลองตรวจหาคำตอบให้ชัดเจนซะก่อน

สิ่งหนึ่งอาจจะเกิดจากความเจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าสัตว์เลี้ยงโกรธเมื่อคุณสัมผัสมัน
หรืออาจเกิดจากปัญหาทางทันตกรรม โรคข้ออักเสบ การบาดเจ็บ การติดเชื้อ สิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุบางอย่างเท่านั้นที่อาจเปลี่ยนอารมณ์ของสัตว์เลี้ยง และทำให้พวกมันเกิดความเจ็บปวดจนทำให้มีอารมณ์ฉุนเฉียวใส่เจ้าของ

8.ปัสสาวะบ่อย

ปัสสาวะบ่อย

หากแมวหรือสุนัขของคุณเริ่มใช้ห้องน้ำบ่อยขึ้นหรือสีของปัสสาวะเปลี่ยนไป ห้ามเพิกเฉยเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสัตว์เลี้ยงของคุณพยายามปัสสาวะผิดๆหรือเกิดขึ้นบ่อยๆ

โปรดจำไว้ว่าลูกสุนัขและสุนัขชราจะใช้ห้องน้ำบ่อยขึ้น

อย่างไรก็ตามปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงอาจทำให้เกิดพฤติกรรมดังกล่าวได้ เช่น การกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เบาหวาน การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรือโรคไต

7.เลียตัวเองมากเกินไป

สัตว์เลี้ยงของคุณเลียตัวเองมากเกินไป

การทำความสะอาดตัวเองมากเกินไปในแมว อาจหมายถึงปัญหาสุขภาพ สาเหตุหนึ่งคือบริเวณที่เลียนั้นมีอาการคันหรือเจ็บปวดจากภายในหรืออาจเป็นหมัดหรืออาการแพ้ บางครั้งแมวเลียตัวเองอย่างหนัก เพราะความเครียดหรือวิตกกังวล

หากสุนัขของคุณเลียอุ้งเท้าระหว่างกรงเล็บบริเวณข้างหางหรือระหว่างสะโพก แสดงว่าพวกมันอาจเป็นโรคภูมิแพ้ หากสุนัขเลียสิ่งของที่ผิดปกติ (พื้นหรือผนัง) หรือเลียริมฝีปากบ่อยๆอาจเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร

6.มีบางอย่างผิดปกติกับดวงตา

มีบางอย่างผิดปกติกับดวงตาของสัตว์เลี้ยงของคุณ

ตาแดง การหลั่งน้ำตาออกจากดวงตา หรือเปลือกตาล่างโผล่ออกมาให้เห็น เป็นอาการที่เกิดขึ้นจากไวรัสและการติดเชื้อแบคทีเรีย ตัวอย่างเช่น การหลั่งน้ำตาจากดวงตาของแมว หมายความว่ามันกำลังติดไวรัส ในขณะที่ขี้ตาสีเหลืองหรือสีเขียวอาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อ

อาการตาแดงอาจหมายถึง การบาดเจ็บ โรคภูมิแพ้ โรคกระจกตา หรือโรคทางระบบร่างกายที่ร้ายแรง

5.นอนหลับนานกว่าปกติ

สัตว์เลี้ยงของคุณนอนหลับนานกว่าปกติ

แมวสามารถนอนหลับได้ถึง 13-16 ชั่วโมงต่อวันหรือนานกว่านั้นหากมันเบื่อ แต่ก็ยังมีสาเหตุอื่น ๆ สำหรับการนอนหลับเป็นเวลานาน คือ ความเครียด เยื่อบุช่องท้องอักเสบ เม็ดเลือดขาว โรคลายม์หรือแม้แต่ไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่องในแมว ลองไปปรึกษาสัตว์แพทย์ดีกว่าเพื่อขอคำแนะนำ ป้องกันเอาไว้ก่อน

ในสุนัขการนอนหลับมากเกินไปอาจบ่งบอกถึง ปัญหาต่อมไทรอยด์ เบาหวาน การติดเชื้อหรือความเครียด

4.เส้นขนมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

เส้นขนมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

หากน้องแมวป่วยไม่มีแรงที่จะเลียตัวเองและดูแลขนให้สะอาด มันอาจเป็นสาเหตุหนึ่ง ของการเกิดโรค คือ โรคข้ออักเสบ

หากสัตว์เลี้ยงของคุณผลัดขนมากเกินไปก็เป็นสัญญาณอันตรายเช่นกัน สัตว์อาจป่วยเป็นโรคผิวหนัง ขาดสารอาหาร ขาดวิตามิน ภูมิแพ้หรือแม้แต่เนื้องอก

3.ปัญหาการหายใจ

ปัญหาการหายใจ

หากสัตว์เลี้ยงของคุณหายใจลำบากโดยที่มันไม่ได้ออกกำลังกายให้พาไปพบสัตว์แพทย์ทันที!

ภาวะดังกล่าวอาจเป็นอันตรายได้และสาเหตุก็มีมากมายตั้งแต่ของเหลวในช่องอกไปจนถึงปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ

2.การเปลี่ยนสีของเหงือก

การเปลี่ยนสีของเหงือก

แมวและสุนัขมักมีเหงือกสีชมพู ยกเว้นตัวที่เกิดมาพร้อมกับสีดำ หากเหงือกของพวกมันมีสีเปลี่ยนไปให้พาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตว์แพทย์

เหงือกสีขาวบ่งบอกถึงการสูญเสียเลือด หากเหงือกมีแดง อาจหมายความว่า น้องกำลังมีไข้สูง มีการติดเชื้อ สารพิษหรือปัญหาทางทันตกรรม หากเหงือกมีสีน้ำเงินหรือสีม่วงบอกถึงการขาดออกซิเจน เหงือกสีเหลืองบ่งบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับตับ

1.จ้องมองกำแพงอยู่ตลอดเวลา

สัตว์เลี้ยงของคุณจ้องมองกำแพงอยู่ตลอดเวลา

แน่นอนพวกเขาอาจเห็นบางอย่างที่เรามองไม่เป็น แต่น่าเสียดายที่เหตุผลที่คุณจะรู้มันอาจร้ายแรงกว่ามาก กลุ่มอาการเสื่อมสมรรถภาพทางสติปัญญา อาการชักหรือเวียนศีรษะอาจเป็นอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ เนื้องอก สมองอักเสบ อาการเป็นพิษ โรคหลอดเลือดสมองและอื่น ๆ หากน้องมีอาการลักษณะให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด!

โบนัส: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าแมวของเรากำลังโกรธหรืออารมณ์ไม่ดี

แมวของเรากำลังโกรธหรืออารมณ์ไม่ดี

อาจเป็นเรื่องยากที่เราจะรับรู้ว่าสัตว์เลี้ยงของเรานั้นมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวและอาจมีปฏิกิริยาที่เราคาดไม่ถึง โชคดีที่มีสัญญาณเตือนที่จะบ่งบอกให้เราสามารถรับรู้สิ่งนี้ได้เพียงแค่มองในตาของแมว: โดยปกติตาของแมวจะเปิดกว้างหรือปิดครึ่งหนึ่งโดยให้รูม่านตาแคบและเป็นแนวตั้ง แต่ถ้าหากรูม่านตากว้างและกลมนั้นมันจะเป็นสัญญาณว่าคุณไม่ควรสัมผัสน้องแมวของคุณในตอนนี้

ข้อมูลและรูปภาพจาก : Bright Side