หากคุณกำลังอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนไปให้สุนัขของคุณกินอาหารยี่ห้อใหม่ ไม่ว่าจะหมายถึงแบรนด์ใหม่ทั้งหมด หรือเพียงแค่รสชาติใหม่ก็ตาม คุณควรทำใจให้สบาย อย่าพยายามไปรีบเร่งผลลัพธ์จากน้องหมาหรือสัตว์เลี้ยงของคุณ
“ สุนัขมีแนวโน้มที่จะไวต่ออาหารชนิดใหม่มากกว่าที่เราเป็นอยู่และไม่ได้วิวัฒนาการมาเพื่อกินอาหารที่หลากหลายเท่ามนุษย์ และด้วยเหตุนี้พวกมันจึงได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงโดยวิธีที่ช้าลง เมื่อแนะนำอาหารประเภทใหม่หรือรสชาติใหม่ๆ ” ดร. แอนเดรียตูผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของ Behavior Vets NYC กล่าว.
ดร. TU มักแนะนำให้คนผสมอาหารใหม่ในปริมาณเล็กน้อย และค่อยๆเพิ่มอัตราส่วนของอาหารใหม่กับอาหารเก่าจนกว่าจะได้อาหารใหม่ 100 เปอร์เซ็นต์
“ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้นในช่วง 10 วันถึงหนึ่งเดือน” ดร. TU กล่าว
ดร. TU เลยแนะนำกำหนดการนี้ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นให้กับผู้เลี้ยงทุกๆคน :
สัปดาห์ที่ 1: ให้เราป้อนอาหารเก่า 75 เปอร์เซ็นต์ อาหารใหม่ 25 เปอร์เซ็นต์
สัปดาห์ที่ 2: ให้เราป้อนอาหารเก่า 50 เปอร์เซ็นต์ อาหารใหม่ 50 เปอร์เซ็นต์
สัปดาห์ที่ 3: ให้เราป้อนอาหารเก่า 25 เปอร์เซ็นต์ อาหารใหม่ 75 เปอร์เซ็นต์
สัปดาห์ที่ 4: ให้เราป้อนอาหารใหม่ 100 เปอร์เซ็นต์
แต่ถ้าหากว่า สุนัขของคุณไม่กินอาหาร หากคุณพบว่าสุนัขของคุณไม่กินอาหารใหม่เลยให้ติดต่อสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเฉพาะด้านเพิ่มเติม
การเปลี่ยนอาหารจะส่งผลถึงระบบขับถ่ายของน้องหมาหรือไม่?
น้องหมาและน้องแมว มีแนวโน้มพบปัญหาเหล่านี้ได้และอาจจะมีการถ่ายเหลวได้ง่ายกว่ามนุษย์ เมื่อเราเปลี่ยนอาหารสูตรใหม่ หรืออาหารที่หลากหลายมากๆ ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าระบบทางเดินอาหารของน้องหมา น้องแมวนั้นแตกต่างจากคนเรา พวกเขามีความจุในทางเดินอาหารน้อยกว่า และมีปริมาณจุลินทรีย์ในทางเดินอาหารน้อยกว่า ทำให้เมื่อเปลี่ยนอาหารทันที ระบบทางเดินอาหารและจุลินทรีย์ในลำไส้ปรับตัวไม่ทัน และมีทำให้น้องหมาน้องแมวมีอาการท้องเสียในที่สุด.
อ้างอิงข้อมูลจาก : thedodo
