Saturday, 23 November 2024

ดอกเฟื่องฟ้า (Bougainvillea) การปลูกและประโยชน์ของดอกเฟื่องฟ้า

ทำความรู้จักกับ ดอกเฟื่องฟ้า (Bougainvillea) เป็นไม้เลื้อยคลุมดินที่เด่นสะดุดตาสำหรับพื้นที่เขตอบอุ่นจนถึงพื้นที่ประเทศเขตร้อน มีสีสันสดใส สามารถปลูกเป็นไม้ประดับกำแพง ซุ้ม เนิน และรั้ว ไม้ชนิดนี้ต้องค้ำยันอย่างมั่นคงเพราะมีกิ่งก้านค่อนข้างหนัก หรืออาจปลูกไว้บริเวณโคนต้นไม้ใหญ่ที่โตเร็ว เช่น กระถินณรงค์ ประดู่ เพื่อให้เลื้อยขึ้นคลุม

เวลาดอกเฟื่องฟ้าออกดอกจะสวยสะดุดตา ทั้ง เหลือง แดง แสด ขาว ชมพู ม่วง และฟ้า นอกจากนี้ยังนิยมปลูกลงกระถางหรือช่องปลูกต้นไม้ตามระเบียงตึกหรือสะพานลอยที่สามารถได้รับแสงได้อย่างเต็มที่ โดยทั่วไปแล้ว เฟื่องฟ้าเป็นไม้โตเร็ว แม้ว่าจะมีการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆหลายพันธุ์แล้วโตช้ากว่ารุ่นเก่าก็ตาม

ดอกเฟื่องฟ้ามาจากไหน?

ต้นเฟื่องฟ้าถูกค้นพบครั้งแรกที่ประเทศบราซิล จนเริ่มนำไปปลูกตามประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรป ในประเทศไทยมีการนำดอกเฟื่องฟ้าเข้ามาครั้งแรกจากประเทศสิงคโปร์ ในสมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากต้นเฟื่องฟ้ามีความเหมาะสมกับสถาพภูมิอากาศ สามารถเจริญเติบโตได้ดีในประเทศไทย

ดอกเฟื่องฟ้าสีเหลือง
ดอกเฟื่องฟ้าสีเหลือง
ภาพโดย Spencer Wing จาก Pixabay

การปลูกดอกเฟื่องฟ้า

1.ควรเน้นปลูกตรงพื้นที่ที่สามารถระบายน้ำได้ดี

เลือกตำแหน่งที่ได้แสงแดดดี และปลูกในดินที่โปร่ง มีความอุดมสมบูรณ์ เฟื่องฟ้าจะปลูกได้งามดีอย่างเห็นได้ชัดในดินโปร่ง ดินปนทรายหรือดินปนหินและต้องได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอ แต่จะปลูกไม่งามในดินเหนียว และต้นเฟื่องฟ้าจะไม่สามารถทนที่ๆมีน้ำขังนานๆได้ สำหรับบริเวณที่ระบายน้ำได้ไม่ดี ควรปลูกไว้บนเนินแทน

2.การให้อาการและน้ำ

ควรให้ปุ๋ยและน้ำแก่ต้นเฟื่องฟ้าเป็นประจำเพื่อให้ออกดอกสวยงาม ใส่ปุ๋ยชนิดใดก็ได้ที่ใช้กันทั่วไปในสวน รอบๆบริเวณรากตามอัตราส่วนที่ระบุจะช่วยให้ต้นโตเร็วและออกดอก การให้ปุ๋ยน้ำเพื่อบำรุงใบในระยะต้นๆ จะทำให้เฟื่องฟ้าแข็งแรงตั้งแต่แรก

3.การย้ายต้นกล้า

ในฤดูร้อนที่แห้งแล้งแนะนำให้ใช้สายยางรดน้ำให้ชุ่มเป็นประจำ การรดน้ำในฤดูฝนหรือฤดูหนาวอาจทำให้ต้นเฟื่องฟ้าเกิดความเสียหายเพราะรากหรือใบของมันจะทนความหนาวเย็นไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะในฤดูใดหากใบเริ่มเฉาหรือดูโทรมและไม่มีชีวิตชีวาแสดงว่าเราต้องให้น้ำโดยด่วน!

รากของต้นเฟื่องฟ้านั้นไม่ทนทานต่อการกระทบกระเทือน เวลาย้ายจากที่บรรจุลงดิน ให้ฉีกถุงเพาะออกจากรากแทนที่จะดึงต้นออกจากกระถาง เล็มกิ่งให้สั้นลงประมาณ 1 ใน 3 ของขนาดเดิมและเตรียมหลุมที่จะปลูกให้มีขนาดใหญ่กว่าพุ่มราก ทางที่ดีควรเตรียมดินไว้ให้เรียบร้อยก่อนย้ายต้นกล้า

การปลูกเฟื่องฟ้าให้เป็นไม้พุ่มและไม้ต้น

แม้เฟื่องฟ้าจะขึ้นชื่อว่าเป็นไม้เลื้อยแต่ก็สามารถปลูกเป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นได้เช่นกัน ถ้าจะปลูกเฟื่องฟ้าเป็นไม้พุ่มควรเลือกพันธุ์ที่โตไม่เร็วนัก เพราะตัดเล็มให้เข้ารูปเข้าทรงได้ง่าย โดยอาจปลูกเป็นต้นเดี่ยวแล้วตัดแต่งเป็นรูปทรงต่างๆหรืออาจปลูกเป็นแนวรั้วเตี้ยๆก็ได้

ภาพโดย Christopher Willey จาก Pixabay

ส่วนการปลูกเป็นไม้ต้นนั้น ควรเลือกสายพันธุ์ที่มีกิ่งก้านห้อยระย้าจะดีที่สุด เพื่อให้ดูอ่อนช้อย การจัดแต่งนั้น ให้ตัดกิ่งอื่นๆออกให้หมด เหลือเพียงกิ่งหลักแค่เพียงกิ่งเดียว หรือทิ้งไว้สัก 2-3 กิ่ง ให้ทอดย้อยอยู่ใกล้ๆกัน จากนั้นใช้กรรไกรตัดกิ่งเล็ม บริเวณเรือนยอดให้เรียบร้อย

การปลูกดอกเฟื่องฟ้าเป็นบอนไซ

ในประเทศญี่ปุ่น ไต้หวัน และสิงคโปร์นั้น นิยมนำตอเฟื่องฟ้ามาปลูกในกระถางเล็กๆ เพื่อทำเป็นต้นบอนไซ เนื่องจากกิ่งของเฟื่องฟ้านั้นสามารถนำไปดัดได้ง่าย และยังมีดอกที่มีสีสันสดใส จึงสามารถนำไปทำเป็นต้นบอนไซที่สวยงามได้เช่นกัน

เกร็ดความรู้ดอกเฟื่องฟ้า

ชื่อของดอกไม้ชนิดนี้มาจากนามของ หลุยส์ อังตวน เดอบุลกันวิลเล (Louise Antoine de Bougainville: 1729-1811) แห่งฝรั่งเศสซึ่งเป็นทหารเรือราชองครักษ์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เป็นผู้นำไม้ชนิดนี้มาจาก ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล เข้ามาในยุโรป เชื่อกันว่าไม้ชนิดนี้นำเข้ามาในประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1880 เป็นพันธุ์ตรุษจีน (Bougainville glabra) ต่อมาอีก 30 ปี ก็มีการนำเฟื่องฟ้าสีสันต่างๆเข้ามา

การขยายพันธุ์ดอกเฟื่องฟ้า

  • เฟื่องฟ้าขยายพันธุ์โดยการปักชำกิ่ง ใช้เวลาประมาณ 10-12 สัปดาห์ ก็สามารถนำไปใช้การได้ ให้เราเลือกตัดกิ่งแก่ ความยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร ในช่วงปลายฤดูหนาวหรือตัดกิ่งที่ยังอ่อน (กึ่งแก่) ในช่วงฤดูฝน จากต้นที่ปลูกไว้ฤดูก่อนหน้านั้น
  • นำกิ่งไปปักชำไว้ในภาชนะหรือร่องเล็กๆที่ขุดเตรียมไว้ในสวน
  • เติมดินผสมทรายและพีทมอส หรือขุยมะพร้าวลงไป
  • วางในที่ๆมีแดดส่องถึงและหาที่กำบังลงให้กิ่งชำด้วย เมื่อกิ่งเริ่มแตกใบและรากแล้ว ก็ย้ายไปปลูกในกระถางหรือปลูกลงในดินได้
ภาพโดย Dimitris Vetsikas จาก Pixabay

ใบประดับ

ส่วนที่เราเรียกกันทั่วไปว่า ดอกเฟื่องฟ้านั้น ความจริงแล้วมันคือ ใบประดับ (Bract) จะมีสีสันต่างๆกัน ทำหน้าที่แทนกลีบรองดอก ส่วนดอกที่แท้จริงนั้น มีขนาดเล็กสีขาวอยู่ตรงกลาง ข้างในของใบประดับนั่นเอง !

ประโยชน์ของดอกเฟื่องฟ้า

1.ดอกเฟื่องฟ้าสามารถนำมาทำเป็นสีย้อมผ้าหรือสีย้อมอาหารได้

2.ในส่วนของดอกสามารถนำมาประกอบอาหารได้ เช่น การนำมาชุบแป้งทอด

3.ปลูกเป็นไม้ประดับ ทำเป็นซุ้มสำหรับนั่งเล่นได้ สามารถตัดแต่งเป็นรูปทรงต่างๆ หรือนำมาทำเป็นบอนไซได้

ภาพโดย jayakv จาก Pixabay

4.เป็นต้นไม้มงคล ได้รับสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งไม้ประดับ” เปรียบเหมือนความเบิกบาน ความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต ควรปลูกไว้ในทิศตะวันออก และเป็นต้นไม้ที่เหมาะกับผู้หญิง

5.เฟื่องฟ้ามีสรรพคุณเป็นยาช่วยในเรื่องของการขับถ่ายและการบำรุงหัวใจ และระบบการไหลเวียนของโลหิต

อ้างอิง : wikipedia , medthai

Exit mobile version